ยุคนี้ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในอนาคต แต่จะดีกว่าถ้ามีทักษะที่ช่วยในการทำงานและอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี ไม่ถูกแทนที่แต่เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีและพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่า ม.กรุงเทพ มีการปรับตัวเพื่อให้นักศึกษามีทักษะที่ทันต่อโลกอนาคตอย่างไร มีหมวดวิชาว้าวๆ ทั้งนั้นค่ะบอกเลย #CreativeTechnology
ใน 10 Module ของวิชายุคใหม่นี้จะช่วยพัฒนาทักษะของนักศึกษาให้ได้เรียนรู้และปรับใช้เทคโนโลยี เพราะบางสายงานเรียนจบไปอาจจะไม่มีตำแหน่งนั้นอยู่แล้ว เพราะทักษะต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่การันตีได้เลยว่าเมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จะมีความเชี่ยวชาญรอบด้านในทักษะวิชาที่จำเป็น พร้อมทำงานกับเทคโนโลยีได้อย่างยั่งยืน เพราะเราให้ความสำคัญกับนักศึกษาทุกคณะให้ประสบความสำเร็จในอาชีพต่อตลาดแรงงานในอนาคต
ระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ โดยไม่มีสถาบันการเงินหรือสำนักชำระบัญชีเป็นตัวกลาง ให้จับจ่ายใช้สอยออนไลน์ สะดวก ปลอดภัยราวกับเงินสด และยังสามารถนำไปประยุกต์กับระบบอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น การช่วยส่งเสริมการขายสินค้าต่างๆ การสะสมแต้มผ่านแอปพลิเคชัน รวมไปถึงระบบการนับคะแนนเลือกตั้ง ล้วนนำเทคโนโลยี Blockchain มาช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น โดยวิชานี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานอื่นๆ และไม่ตกเทรนด์อย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่พวกเราใช้กันอยู่ ถ้ามีการฝังโปรแกรม A.I. เข้าไปในสิ่งเหล่านั้น ทำให้เครื่องจักรมีความสามารถในการตัดสินใจ มองเห็น ได้ยิน โต้ตอบได้คล้ายมนุษย์ ตัวอย่างที่เห็นได้จากใกล้ตัวเช่น Facebook สามารถระบุตัวตนของคนในรูปภาพได้ ซึ่งในอนาคตเราต้องอยู่และทำงานใกล้ชิดกับระบบ A.I. อย่างแน่นอน แต่จะดีกว่าหรือไม่หากคุณสามารถประยุกต์ใช้และพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง
ข้อมูลที่อยู่ในหลายรูปแบบ เช่น รูป ข้อความ คลิป ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้อมูลทางธุรกิจที่มีปริมาณมหาศาล ในชีวิตประจำวันของพวกเรา ลืมตาตื่นขึ้นตอนเช้าเราหยิบโทรศัพท์เข้าโซเชียลมีเดีย เสริชค้นหาข้อมูล ดูร้านค้าร้านอาหาร ซื้อของออนไลน์หรือแม้แต่เข้า YouTube ฟังเพลง ดูละครย้อนหลัง ทั้งหมดคือข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเข้าสู่ระบบ หากสงสัยว่ามี data ที่มหาศาลอยู่แต่ไม่รู้จะใช้ยังไง ขอแนะนำให้มาเรียนวิชา Big Data ได้เรียนเกี่ยวกับการกรองข้อมูล ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ นำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ และจำแนกข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างแม่นยำที่สุด
เพราะเทคโนโลยีอยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด IoT คือ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับเครื่องมือต่างๆ ให้สื่อสารและทำงานประสานกัน มาเรียนรู้เพื่อพัฒนายกระดับความสามารถของอุปกรณ์ต่างๆ และประยุกต์การใช้งานเทคโนโลยี IoT ได้อย่างหลากหลายและเกิดประโยชน์สูงสุด
เรียนพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ การทำแอปพลิเคชันลงบนสมาร์ทโฟน เช่น แผนที่ เกม ท่องเที่ยว ความบันเทิง การเงิน สุขภาพ กีฬา ซื้อของออนไลน์ โปรแกรมแชทต่างๆ ทำให้วิชานี้จำเป็นต่อการทำธุรกิจ เพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อกับลูกค้าได้มากขึ้น
ก้าวทันยุคใหม่กับการบริหาร ประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลกับระบบคลาวด์ ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออนไลน์ มาช่วยให้ทุกคนสามารถปฏิบัติงาน เก็บข้อมูลสำคัญ ประมวลผลข้อมูล และเข้าถึงได้จากทุกที่ในโลก โดยจะมุ่งเน้นให้นักศึกษาสามารถเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ระบบคลาวด์ ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงานให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
ระบบการสื่อสารแบบไร้สายในยุคที่ 5 ทำให้เราดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เปิดเว็บไซต์บนมือถือได้เร็ว ไม่มีสะดุด แม้แต่วิดีโอที่มีความละเอียดสูง และประโยชน์ของมันไม่ได้มีอยู่แค่นี้ ถ้าในอนาคตนำ 5G มาทำงานร่วมกับ IoT ก็จะมีนวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายทั้งในด้านการศึกษา การขนส่ง และการแพทย์ เป็นต้น
การจำลองสภาพแวดล้อมทั้งภาพและเสียง โดย AR จะเอาภาพจำลองมาผสมกับภาพในโลกจริง ยกตัวอย่างเช่นเกม Pokemon Go หรือการใส่ฟิลเตอร์กิ๊บเก๋บนใบหน้า ผ่าน Instagram ก็เป็น AR เช่นกัน
ส่วน VR จะพาเราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกจำลอง แบบไม่มีของจริงหลงเหลือเลย จะเล่นเกมก็อินสุดๆ เหมือนเป็นตัวละครในเกม หันไปทางไหนหรือหยิบจับอะไรก็ได้ สร้างภาพยนตร์แบบ VR ให้คนดูเหมือนหลุดไปอยู่ในซีนเลยก็ได้ หรือเอามาทำประโยชน์ ช่วยฝึกทักษะในสถานการณ์ที่ชีวิตจริงฝึกได้ยาก ก็ทำได้เช่นกัน
เรียนออกแบบอุปกรณ์หรือเทคโนโลยี เพื่อให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ อย่างเช่น การออกแบบหน้าจอของระบบต่างๆ อย่างเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์โมบายให้มีความสวยงาม เหมาะสม น่าใช้และเข้าใจง่าย
การเขียนชุดคำสั่งของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย Code
การสั่งงานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ทำตามที่เราต้องการ โดยการใช้ภาษาของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้หลักการเขียนโปรแกรมให้ตอบโจทย์ธุรกิจและการบริการ
