จับเข่าคุยครั้งนี้ขอพาหนุ่มหล่อสายอาร์ตกับความฝันที่มุ่งมั่นตั้งใจกับเส้นทางศิลปินในสายอาชีพ นายพิพัฒน์พงศ์ ศรีเพ็ง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ชอปเปอร์” นักศึกษาสาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่มีใจรักการวาดรูปมาตั้งแต่สมัยอนุบาลชอบขีดชอบเขียนวาดตามจินตนาการ คุณพ่อคุณแม่เห็นแววสนับสนุนลูกชายเต็มที่ พอเข้าช่วงชั้นประถมศึกษาจนมัธยมศึกษาตอนปลายหนุ่มน้อยคนนี้ลงแข่งขันประกวดวาดภาพทุกสนามเวทีเล็ก เวทีใหญ่ ร่วมถึงกิจกรรมของโรงเรียนที่เกี่ยวกับงานวาดขอให้บอกทุ่มเทแรงกายแรงใจเต็มร้อยทุกงาน
“ทุกการประกวด ทุกกิจกรรมจะต้องมีผมที่เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับการวาดภาพเสมอ เพราะผมไม่ได้เรียนวาดภาพตามโรงเรียนสอนศิลปะ ผมใช้การฝึกฝนจากการศึกษาดูงานตามนิทรรศการและอินเทอร์เน็ตจากนั้นกลับมาฝึกฝนที่บ้านหลังเลิกเรียนทุกวัน และการที่ผมชอบลงแข่งขันประกวดทำให้ผมได้ประสบการณ์และฝึกทักษะของตนเองกับโจทย์ยากในแต่ละการแข่งขัน”
ด้วยใจรักและมุ่งมั่นในการวาดภาพเมื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชอปเปอร์ได้รับทุนโครงการนิวเจนอาร์ติสต์ (New Gen Artist) จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หนุ่มน้อยคนนี้รู้ถึงแนวทางการวาดภาพที่ชอบว่าตนนั้นเป็นคนชอบวาดภาพเหมือน ภาพเหมือนรูปแรกที่วาดคือรูปคุณแม่ตอนนั้นท่านกำลังเผลอเป็นภาพเหมือนที่วาดแล้วภูมิใจทุกครั้งที่ได้มีโอกาสนำภาพนั้นมาโชว์หรือบอกใคร ๆ ว่าภาพเหมือนนี้คือคุณแม่ผมเอง ถึงแม้เดี๋ยวนี้อาจไม่ค่อยมีโอกาสได้จับดินสอมาร่างวาดภาพแล้ว เพราะเปลี่ยนเป็นการวาดภาพผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์แทน
หลังจากเข้ามาเรียนที่ม.กรุงเทพได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ The Melbourne x Bangkok Contemporary Art Exchange Program 2019 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบัน RMIT Creative แห่ง RMIT University ประเทศออสเตรเลีย เข้าร่วม Workshop และแสดงผลงานศิลปสร้างสรรค์ในต่างแดน
“ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมเวิร์คช้อปและแสดงผลงานในต่างแดนผมได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมาย เปิดมุมมองความคิดไอเดียของเราให้กว้างขึ้นจากเดิม โชคดีที่พวกเราได้รับโอกาสนี้จะตั้งใจนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์อย่างแน่นอน”
หลายคนอยากรู้เคล็ดลับพรสวรรค์นี้หนุ่มชอปเปอร์บอกเลยว่าเคล็ดไม่ลับขอให้เรามีใจหาตัวเองให้เจอจากนั้นฝึกฝนดูงานศิลป์ให้เยอะพยายามเชื่อมโยงศิลปะจากทุกมุมโลกเพื่อที่เราจะได้เจอแนวทางในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างตัวชอปเปอร์เองพอได้มาลองเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้พบว่าบนโลกนี้คนจบศิลป์ไม่ตกงานแน่นอน เพราะทุกอาชีพทุกสายงานล้วนก็ต้องพึ่งพางานศิลป์เข้าไปผสมผสานเพื่อความสร้างสรรค์ และตัวผมเองก็เกิดชอบแนวทางการวาดภาพประกอบซึ่งได้ไอเดียมาจากการอ่านนิยายซึ่งพบว่าแนวทางนี้เป็นศิลปะเชิงพาณิชย์ นี่คือคำตอบของความฝันผมที่อยากเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตัวเองรัก